Best of Mikako

Best of MIKAKO

 

Gokinjo Monogatari (1995-1997) มีชื่อภาษาไทยว่า “เก็บหัวใจไว้ให้คนข้างบ้าน” มีนางเอกคือ โกดะ มิคาโกะ พี่สาวของมิวาโกะจังจากเรื่อง Paradise Kiss นั่นเอง เราจะได้อ่านจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Happy Berry (ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับแบรนด์สยามที่สมัยก่อนเรียกได้ว่าเป็นควีนแห่งเซ็นเตอร์พ้อยต์) และการเดินทางของเด็กนักเรียนแฟชั่นดีไซน์สู่การสร้างแบรนด์ของตัวเอง ในยุคนี้ที่ใครๆต่างก็ขายเสื้อผ้าในไอจี การ์ตูนเรื่องนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีได้ทีเดียว

ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องมีความหนักกว่าความสดใสที่ตาเห็นมากโดยเฉพาะความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ โดยรวมคือสามารถสื่อความ “เพราะเป็นวัยรุ่นจึงเจ็บปวด” ได้อย่างดีเยี่ยมตามสไตล์ของอ.ยาซาว่า โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของอนาคตสำหรับเด็กที่เรียนศิลปะ และการต้องเลือกที่จะอยู่หรือเดินออกจาก comfort zone ของตัวเอง

จุดที่น่าสนใจคือการแสดงออกที่ไม่เหมือนใครของมิคาโกะ เวลามีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจมักจะแสดงออกด้วยการเปลี่ยนสีผมอย่าง dramatic เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการก้าวผ่านเรื่องในจิตใจ เทียบได้กับการที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกจะตัดผมตอนอกหักก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนจากผมสีน้ำตาลมาเป็นผมบลอนด์ทอง หรือการตัดสั้นทรง pixie cut แม้แต่การแสดงออกด้วยการเจาะหู ท่ามกลาง struggle ต่างๆที่เด็กมัธยมปลายต้องเจอไม่ว่าจะเรื่องเพื่อน หัวใจ ครอบครัว และเส้นทางอนาคต เราจะเห็นภาพความยุ่งเหยิงในจิตใจสะท้อนผ่านแฟชั่นในตัวของมิคาโกะตลอดเวลา

 

LOOK 1: Best of Both World

 
28535847_10155201786840143_325431264_n.jpg
 

อันนี้เป็นภาพที่น่ารัก 555 มิคาโกะกับริซ่าเพื่อนสนิทในกลุ่ม แต่งตัวด้วย silhouette เดียวกันแต่ styling กันไปคนละขั้ว เคมีแบบนี้แหละที่ดูเป็น อ.ยาซาว่าและดูเป็น Nana มากเลย กระโปรงของมิคาโกะเดาว่าเป็นหนัง pvc แถมมี garter belt คนเฟอร์อีก สร้างบาลานซ์ระหว่างเสน่ห์ที่ใสซื่อและความ kinky เซ็กซี่นิดๆ ประทับใจค่ะ

 

LOOK 2: Mod Matter

28535244_10155201786830143_231673386_n.jpg
 

ในเรื่องนี้ เวลามีงานโรงเรียนทุกคนจะต้องแต่งตัวจัดเต็มเป็นกฏหลักของ ผอ. โรงเรียนยาซาว่า ซึ่งในที่นี้ตัวอ.ยาซาว่าเองนั่นแหละใช้ตัวเองมาแสดงนำ 555 ชุดนี้ของมิคาโกะมีความ mods ที่ชวนให้คิดถึง twiggy หมวก Cossack กับถุงมือยาวๆก็ดูเยอะแยะเกินเรื่องดีเหลือเกิน ฉากนี้ตัวละครอื่นๆก็จัดเต็มกันตามสไตล์ส่วนตัว ดูแล้วน่าสนุกอยากให้โรงเรียนเรามีวันแต่งตัวประชันกันบ้างจังเลยเนอะ

 

LOOK 3: Stripper Platform

28536155_10155201786915143_1803544488_n.jpg
 

ในเล่มเขียนว่า Mikako’s Fashion Design by Chiharu Totsuka แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร อาจจะเป็นนักเขียนการ์ตูนผู้หญิงอีกท่านในเครื่อง Ribon หรืออาจจะเป็นดีไซเนอร์ในตอนนั้นก็ไม่แน่ใจ (ถ้ารู้ก็คอมเมนต์บอกกันใน facebook เราด้วยนะ!)  ที่รู้ก็คือ clear stripper platform heels สูงลิ่วไม่ต่ำกว่า 10 ซม.นี้คือที่สุดของใจจริงๆ ในยุคนั้นสาวๆแกล (gals) หรือเรียกง่ายๆบ้านๆว่าสก๊อยญี่ปุ่นม.ปลายสมัยนั้นจะมีส้นตึกเป็นไอเท็มหลัก ส้นใสๆแบบนี้นึกถึงพวก stripper ใน Las Vagas มีความเปรี้ยวแสบ แถมทั้งชุดยังมีลายหัวใจอยู่ในทุกๆ piece รวมถึงเมคอัพด้วย อะไรมันจะต้องคุมโทนให้เกินเรื่องขนาดนั้นล่ะ น่ารักจังเลย!!

 

LOOK 4: Oriental Angel

28534391_10155201787080143_1512345239_n.jpg
28534073_10155201787240143_1984441930_n.jpg
tumblr_lnbgkq3B0z1qa1n5wo1_1280.jpg
 

มิคาโกะมีชุดที่แต่งกระดุมสไตล์จีนอยู่เป็นบางตัว ส่วนตัวเราชอบชุดเดรสยาวตรงตัวนี้มาก ปลายเดรสเป็นลายดอกด้วย ปีกที่เห็นมาจากเป้สะพายหลังที่ดีไซน์เอง เป้ใบนี้แองเจิลซาเอจิม่าจาก Tenshi ก็มาซื้อไปใส่ด้วยนะ! ด้วยลุคแบบจีนมิคาโกะจับเอารองเท้าแตะและทำผมทรงมวยสูงเพิ่มเข้าไปอีก ทางซ้ายเป็นชุดเดิมแต่เวอร์ชั่นหน้าหนาวมีทั้งขนเฟอร์และเดาเอาว่าเป็นลายปักแบบ chinoiserie เข้ากับผมตัดใหม่ทรง pixie สีชมพูสุดจี๊ด

ชอบการใส่ชุดซ้ำ มันเหมือนแสดงว่าตัวละคร comfortable กับลุคแบบไหน สไตล์แบบไหน เห็นแล้วก็รู้สึกว่ามีความกลมของคาแร็คเตอร์ดีนะ

 

LOOK 5: Kiddy Play

28536719_10155201787250143_1187681105_n.jpg
 

ช่วงหน้าร้อนมิคาโกะใส่เอี๊ยมกับเสื้อสายเดี่ยวลายทาง แบบว่าสุดจะเทรนดี้ (การใช้คำว่าเทรนดี้ก็เป็นการบอกยุคสมัยชนิดหนึ่งนะ) จุดที่เราเก็บมาฟินในใจคือการติดพลาสเตอร์ที่แขน พลาสเตอร์เองก็ใช้เป็นเครื่องประดับได้นะรู้มั้ย! 555 จะนำพาความเป็นเด็กให้บวกคะแนนเข้าไปอีกสิบเลยล่ะ ตำแหน่งที่ติดก็เหมือนกับเวลาเด็กๆโดนฉีดวัคซีนที่แขน อันนี้ถ้าอยากจะคิดวิเคราะห์สไตล์อัักษรคงเปรียบว่าเป็นการแสดงถึงหน้าร้อน หน้าร้อนกับคำว่าปิดเทอมที่เป็นความพิเศษที่เกิดขึ้นเฉพาะกับวัยเด็ก แต่จริงๆในแง่ของการ styling คงเป็นเพราะมิคาโกะต้องลงมาทำงานฝีมือในโกดังก็เลยสวมเอี๊ยมซะมากกว่านะ

 

 

จบไปแล้วกับ series ตัวละครของ อ.ยาซาว่า จริงๆแล้วในผลงานทั้งหมด อ. สร้างตัวละคนที่น่าสนใจแล้วก็มีสไตล์เฉพาะตัวเอาไว้เยอะมากๆ แต่ละสิ่งที่หยิบจับมาใส่ก็เป็นไปอย่างธรรมชาติไม่ฝืนทำ แฟชั่นผู้ชายเองก็ทำได้น่ารักมากทั้งสามเรื่องเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็น อากิระ จากเรื่อง Tenshi ที่มีลุคแบบนักเลงซิ่งมอเตอร์ไซค์อารมณ์ Teddy Boys หรือจะ ซึโตมุคุง พระเอกของมิคาโกะเอง ที่ก็เป็นเด็กหน้าตาน่ารักมีไอเท็มหลักเป็นหมวก newsboy ไซส์ยักษ์เพื่อให้ดูเหมือนเคนจังดาราในเรื่องมากขึ้น หรือจะพ่อจอร์จแห่ง Paradise Kiss ที่เป็นคุณชาย over the top ตลอดเวลา แถมยังเป็นพระเอกคนแรกที่ประกาศกร้าวว่าตัวเองเป็นไบอีกต่างหาก การแต่งตัวก็สะท้อนความแฟมินีนในใจของจอร์จออกมาได้อย่างไม่ขัดเขิน

 
28694274_10155202039355143_1166512644_o.jpg

การออกแบบตัวละครนั้นถูกทำอย่างละเอียดและแม้จะมีความเหนือจริงแต่ก็เป็นธรรมชาติ เสน่ห์ของเรื่องราวจาก อ. ยาซาว่าคือการพูดถึงความเจ็บปวดในจิตใจของคนได้อย่างสมจริงผ่านความหลากหลายของตัวละครที่ต่างกันเพศ ทั้งวัย และลักษณะนิสัย และสิ่งที่ทำให้ชัดขึ้นก็คือการแสดงออกผ่านทางเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครนั่นเอง

 
 

อ่านบทความรวมสรุปได้ที่ The Momentum ค่ะ :)

WriteParisa Bunnag